เราคงทราบผลการแข่งขันกันแล้ว หลังจากที่ผลการแข่งขัน “บิ๊กแมตช์” ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาในถ้วย “แชมเปี้ยนส์ลีก” รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกที่ 2 ที่ซึ่งสโมสร แอตเลติโก มาดริด สามารถย้ำแค้นใส่ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ลงได้อย่างหมดจดด้วยสกอร์ 7m 3-2 (เลกแรกชนะ 1-0) จนสุดท้ายนั้นทีมดังของลีกสเปนก็เข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 4-2 นั้นมันเป็นการคว้าชัยชนะที่สุดสะใจของทีม แอตเลติโก มาดริด เลยก็ว่าได้ มันอาจจะสร้างความชื่นมื่นให้กับแฟนบอล
แต่ว่าในเวลาเดียวกัน มันก็สร้างความเจ็บปวดให้กับทีมลิเวอร์พูล รวมถึงกองเชียร์ “เดอะ ค็อป” ที่ซึ่งต้องโศกเศร้ากับการที่ทีมรักของเขามีอันต้องฝันสลายในการจะป้องกันแชมป์ยุโรปเอาไว้ให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ที่แน่ๆก็คือว่าพวกเขาไม่พอใจกับการเล่นของ แอตเลติโก มาดริด ที่ดันมาเล่นเกมรับแบบออกนอกหน้า และอาศัยการเล่นด้วยระบบ Counter Attack เป็นหลักเหมือนในเกมแรก แต่พวกเขาก็น่าจะทราบดีว่าคนที่วางแผนให้ แอตเลติโก เล่นบอลสไตล์แบบนี้มันก็ไม่ใช่ใครเลย นั่นก็คือตัวของ “เอล โชโล่” ดิเอโก้ ซิเมโอเน โค้ชมาดมาเฟียของทีมนั่นเอง …
เกมรับต้องแน่นไว้ก่อนตั้งแต่มิดฟิลด์ …
ด้วยความที่ตัวของ ซิเมโอเน เป็นเทรนเนอร์ที่เน้นการเล่นแบบรัดกุมไว้ก่อน และทุกอย่างจะต้องเนี๊ยบโดยเฉพาะกับเกมรับที่ซึ่งเขาติวเข้มลูกทีมตั้งแต่พื้นที่ในแดนกลางเลยทีเดียว เขาวางตัวมิดฟิลด์ตัวรับไว้ถึง 2 คน และมีตัวกลางอีก 1 ในการช่วยบีบพื้นที่ตรงกลางสนาม แถมยังมีตัวข้างที่สามารถหุบเข้ามาช่วยบีบพื้นที่ได้อีก และเมื่อทุกอย่างอยู่ในกำมือ หรือดักบอลคู่แข่งได้ชัวร์ สิ่งที่พวกเขาจะทำเป็นอย่างต่อมาก็คือการวางบอลให้กองหน้าตัวเป้าที่รอบอลอยู่ได้เวลาทำงาน นั่นคือการทำประตู
การที่พวกเขาบีบพื้นที่ได้ตั้งแต่กลางสนาม ต่อให้พวกเขาหลุดไปถึงแดนหลังได้ แต่แผงแบ็กโฟร์ที่ตัวของ ซิเมโอเน วางตัวเอาไว้แล้วนั้นก็พร้อมที่จะอัดหนักใส่นักเตะฝั่งตรงข้ามอย่างหนักหน่วงเสมอ …
สเตฟาน ซาวิช กับ เฟลิเป้ กำลังเล่นได้อย่างเข้าขากันมากขึ้น แถมในแดนกลางก็มีตัวช่วยบดอย่าง ซาอูล ญีเกวซ คอยทำให้แดนกลางแน่นหนามากขึ้น พ่วงด้วยตัวของ โธมัส ปาร์เตย์ การเล่นแบบนี้ของ แอตเลติโก มาดริด มันยิ่งกว่าการที่ทำให้นักเตะฝั่งตรงข้ามรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้นเลยทีเดียว
เตะมันได้เลยลูกพ่อ !
หลายๆทีมที่เจอกับนักเตะของ แอตเลติโก มาดริด ต่างก็ต้องรู้สึกอึดอัดกับเรื่องที่ว่า ทีมนี้เน้นการตั้งรับเป็นโซน วางแนวป้องกันไว้หลายชั้น แถมไม่พอในช่วงระยะหลังมานี้ ซิเมโอเน ยังสั่งให้นักเตะเข้าเพรสซิ่งอย่างหนักเพื่อกดดันจนแย่งบอลมาได้อีก มันยิ่งกว่าการทำให้นักเตะทีมตรงข้ามเบื่อหน่ายแล้วไม่พอ สิ่งที่ซิเมโอเนยังอนุญาตให้นักเตะทำได้ก็คือ “เล่นบอลตุกติกใส่นักเตะฝั่งตรงข้ามได้เลย”
แฟนบอลรุ่นเก๋านั้นน่าจะคุ้นเคยกับภาพลักษณ์ของ ซิเมโอเน มาตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นนักเตะอาชีพแล้วว่า เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับแข้งโหด ใส่เป็นใส่ บวกเป็นบวก มีลุกตุกติกเนียนๆอยู่ในตัวเอง ยั่วอารมณ์นักเตะฝั่งตรงข้ามได้เก่ง เมื่อนักเตะฝั่งตรงข้ามสติแตก ก็เข้าแผนทันที แน่นอนว่า ซิเมโอเน ก็มีการไซโคนักเตะในทีมเช่นกันว่าถ้าหากเล่นบอลตุกติกได้ ยั่วได้ก็ควรทำเพื่อทำให้สมาธิของทีมฝั่งตรงข้ามมีอาการรวน ซึ่งเมื่อนักเตะฝั่งตรงข้ามเกิดรวนขึ้นมาล่ะก็ ทุกอย่างมันจะยิ่งเข้าทางฝั่งของ แอตเลติโก
อย่างเช่นในเกมแรกที่ ว่านต๋า แผนนี้ของ ซิเมโอเน ได้ผลตั้งแต่เขาสั่งให้นักเตะเล่นบอลหนักใส่ ซาดิโอ มาเน จนตัวของปีกเซเนกัลฟิวส์ขาดมีเล่นบอลแรงกลับจนเจ้าตัวได้ใบเหลือง แถมเล่นไม่ออกอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้วนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ถอดตัวของ มาเน ออกจากสนามตั้งแต่จบครึ่งแรก
กำแพงที่หนาแน่นบนเส้นประตู “ยาน โอบลัค”
ทีมดังของลีกสเปนทีมนี้ ไม่เคยขาดแคลนผู้รักษาประตูฝีมือดีเลย ไล่ตั้งแต่ยุคสมัยใหม่นี่ก็มีทั้ง ดาบิด เด เกอา ที่ปัจจุบันเป็นมือ 1 ของทีมชาติสเปนไปแล้ว และยังมีตัวของ ธิโบต์ กูร์กตัวร์ ที่ปัจจุบันก็เป็นมือกาวของ เรอัล มาดริด และทีมชาติเบลเยียม จนกระทั่งมาถึงรุ่นของ ยาน โอบลัค
โอบลัค ผู้รักษาประตูชาวสโลเวเนีย คือยอดฝีมือในด้านการป้องกันประตู เขาสูงใหญ่ มากไปด้วยประสบการณ์ มีสภาวะการเป็นผู้นำที่สูงอย่างมาก มันเลยยิ่งทำให้ แอตเลติโก มาดริด มีเกมรับที่แข็งแกร่งมากขึ้นด้วยเช่นกัน
รูปร่างที่ดูเก้งก้าง มันไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย เขาเร็ว อ่านเกมขาด เซฟประตูได้อย่างเหนียวหนึบ มันเลยทำให้แอตเลติโก มาดริดยิ่งกว่าเสือติดปีกเสียอีก มันยอดเยี่ยมจริงๆที่ทีม แอตเลติโก มาดริดต่างมีนักเตะที่เด่นในตำแหน่งและบทบาทตัวเองแบบนี้ครบถ้วน !